7 นักเตะเชื้อสาย "จีน" ที่เคยค้าแข้งใน "พรีเมียร์ลีก"

7 นักเตะเชื้อสาย "จีน" ที่เคยค้าแข้งใน "พรีเมียร์ลีก"

แม้ว่า หวาง จะไม่ได้โอกาสลงเล่นในฤดูกาลนี้แล้ว เนื่องจากเขาโดนปล่อยให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เบ ยืมตัวต่อทันที แต่ หวาง ก็ถือเป็น 1 ในอนาคตที่น่าจับตามอง เมื่อนักเตะวัย 18 ปีรายนี้ รอคอยโอกาสที่จะสร้างความประทับใจได้แบบรุ่นพี่ที่เคยกรุยทางมาให้เขาก่อนหน้า เว็บเราคือผู้ให้บริการหลายใหญ่อย่าง SBOBET , GCLUB , LEAGUE88 , UFABET , JOKER GAME , สโบเบท , จีคลับ , ลีก88 , ยูฟ่าเบต , JOKER เกมส์ และอีกมากมายให้ร่วมสนุกกัน บริการตลอด 24 ชั่วโมง ฝาก- ถอน โอนไว ภายใน 5 นาที่ โปรโมชั่น ฟรีเครดิต เยอะแยะมากมาย

และเพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลตรุษจีน หรือวันปีใหม่ของชาวจีนเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เราจะย้อนรอยไปดูกันหน่อยว่า ก่อนหน้า ดาบิด หวาง หนุ่มเชื้อสายจีนผู้เกิดและเติบโตในสเปนแล้ว มีแข้งเชื้อสายจีนรายใดอีกบ้างที่มีโอกาสมาค้าแข้งกับทีมใน พรีเมียร์ลีก

1. จางยฺหวี่หนิง

จางยฺหวี่หนิง เกิดในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของประเทศ ติดมหาสมุทรแปซิฟิก เริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสร หางโจว กรีนทาวน์ (สโมสร เจ้อเจียง กรีนทาวน์ ในปัจจุบัน) ก่อนจที่ฝีเท้าจะไปเตะตา วิเทสส์ ทีมจาก เนเธอร์แลนด์ ที่ที่เขาได้แสดงฝีมือจนไปเตะตาทีมจาก พรีเมียร์ลีก เข้า

จางยฺหวี่หนิง ย้ายมายัง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในฤดูกาล 2017/18 ด้วยสัญญา 3 ปีครึ่ง ก่อนจะโดน แวร์เดอร์ เบรเมน ดึงตัวไปด้วยสัญญายืมตัวระยะยาว 2 ปีทันที อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถแสดงผลงานที่น่าประทับใจได้ และทำให้เขาได้เป็นแค่นักเตะสำรองของทีมเท่านั้น ปรากฏตัวบนม้านั่งสำรองของ เบรเมน 2 ครั้ง และไม่เคยลงเล่นเลยแม้แต่วินาทีเดียว ก่อนที่สัญญายืมตัวของเขาจะถูกยกเลิกหลังจบฤดูกาล

โชคร้ายของเขาไม่จบลงเท่านี้ เมื่อ เวสต์บรอมวิช ทีมต้นสังกัดของเขาดันตกชั้นหลังจบฤดูกาล 2017/18 อีกด้วย นั่นทำให้ จาง ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับเวที พรีเมียร์ลีก แม้แต่น้อย และปัจจุบันเขาก็ถูกปล่อยให้ อาโด เดน ฮาก สโมสรใน เนเธอร์แลนด์ ยืมตัวไป 

แม้ จาง จะไม่ค่อยมีบทบาทวัย 22 ปีถือเป็น 1 ในความหวังของทีมชาติ จีน เมื่อเขามีส่วนช่วยชาติทะลุไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึก เอเชียนเกมส์ ครั้งล่าสุด และมีโอกาสติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว 9 นัดด้วยกัน และโอกาสในการเล่นบน พรีเมียร์ลีก ก็ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียวสำหรับ จาง เพราะตอนนี้ เวสต์บรอมวิช นั้นบินสูงทีเดียวใน เดอะแชมเปี้ยนชิป จากการมีคะแนนตามหลัง 2 ทีมนำของลีกอยู่เพียง 7 แต้มเท่านั้น

2. นิโคลัส เยนนาริส (หลีเข่อ)

นิโค เยนนาริส เป็นลูกครึ่งชาวไซปรัส-จีนที่เกิดบนแผ่นดินอังกฤษ เจ้าตัวมีโอกาสเติบโตมากับอะคาเดมีของ อาร์เซนอล และเคยประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ของ ปืนใหญ่ มาแล้ว 4 นัด โดยเป็นเกม ลีกคัพ 2 นัด เอฟเอคัพ 1 นัด และ พรีเมียร์ลีก 1 นัด โดยเป็นการลงมาเล่นในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฐานะตัวสำรอง และทีมของเขาพ่ายไป 1-2

เยนนาริส โดนปล่อยไปอยู่กับ เบรนท์ฟอร์ด ในปี 2014 และเริ่มได้โอกาสเล่นอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจย้ายไปเล่นให้ เป่ยจิง กั๋วอัน เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งการย้ายไปลีกจีนในครั้งนี้ ทำให้ เยนนาริส กลายเป็นนักเตะคนแรกของลีกที่ได้รับสิทธิ์เป็นนักเตะโควต้าชาวจีน แต่เกิดในต่างประเทศ นอกจากนี้ เจ้าตัวยังเลือกใช้ชื่อจีนว่า หลีเข่อ เนื่องจากใกล้เคียงกับคำว่า นิโค นั่นเอง

เยนนาริส เคยติดทีมชาติอังกฤษชุดเยาวชนมาแล้วทั้ง U-17, U-18 และ U-19 แต่ด้วยความที่เขาไม่เคยถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่ ทำให้เขายังมีสิทธิ์ลงเล่นให้ทีมชาติ ไซปรัส ตามเชื้อสายของพ่อ หรือ จีน ตามเชื้อสายของแม่ได้อีกด้วย

3. เจิ้งจี้

เจิ้งจี้ เกิดในมณฑลเหลีวหนิง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ชายแดนติดเกาหลีเหนือ เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอาชีพกับทีมเยาวชน เหลียวหนิง ก่อนจะพเนจรไปอีก 2 สโมสร ได้แก่ เสิ่นเจิ้น และ ซานตง หลู่เหนิง ซึ่งที่ ซานตง นี่เองที่ฟอร์มของเขาไปเตะตาแมวมองจากอังกฤษ ก่อนจะโดน ชาร์ลตัน แอธเลติก ยืมตัวไปในครึ่งหลังของ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2006/07 

เจิ้งจี้ ได้โอกาสลงเล่นให้ ชาร์ลตัน ไป 12 เกมด้วยกัน และยิงได้ 1 ประตูในเกมที่เขาช่วยทีมเอาชนะ นิวคาสเซิล 2-1 แม้ ชาร์ลตัน จะตกชั้นหลังจบฤดูกาล แต่พวกเขาติดใจในฝีเท้าของ เจิ้งจี้ และตัดสินใจซื้อขาดในฤดูกาลต่อมา ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ กับสัญญา 2 ปี ก่อนจะระเบิดฟอร์ม ซัดไป 7 ประตูในฤดูกาลแรกกับทีม

ทว่าฤดูกาลที่ 2 ของเขากับ ชาร์ลตัน ไม่รายรื่นเท่าไหร่ เขาได้โอกาสลงสนามในเกม เดอะแชมเปี้ยนชิป เพียง 13 นัด ยิงได้ 1 ประตู และทีมของเขาก็ตกชั้นไปสู่ ลีกวัน ซึ่งท้ายที่สุดเขาและ ชาร์ลตัน ก็แยกทาง ปัจจุบันเขาเล่นให้กับ กว่างโจว เอฟเวอร์แกรนด์ สโมสรที่เขาอยู่ด้วยมาตั้งแต่ปี 2010 และไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะได้รับการโหมตให้ไปนักเตะหมายเลข 10 ที่ดีที่สุดของ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ตลอดกาล

4. ตงฟางโจว

ก่อนจะมี ปาร์คจีซอง นักเตะเอเชียตะวันออกผู้ยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แฟนบอล ปีศาจแดง เคุ้นเคยกับนักเตะเอเชียตะวันออกอยู่ก่อนแล้ว เมื่อ เซอร์อเล็กซ์ ไปดึงเอา ตงฟางโจว เด็กหนุ่มวัย 17 ปี มาจาก ต้าเหลียน ฉีเต๋อ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 5 แสนปอนด์ 

อนาคตของ ตง ใน พรีเมียร์ลีก ส่อเค้าปัญหามาตั้งแต่การที่ไม่สามารถขอวีซ่าทำงานในอังกฤษได้ทันเวลา ส่งผลให้เขาถูก อันทเวิร์ป ทีมจากลีกรองเบลเยียมยืมตัวไป 2 ฤดูกาล ที่ที่เขาได้โอกาสลงเล่นไป 71 เกม และตระบันประตูไปอีก 34 ประตู 

กว่า ตง จะได้วีซ่าทำงานในอังกฤษก็ล่อเข้าไปปีที่ 3 ของสัญญา เขาได้โอกาสประเดิมสนามในเกม พรีเมียร์ลีก กับ เชลซี โดยจับคู่กับ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ในตำแหน่งกองหน้า ก่อนที่จะเสมอกันไป 0-0 จากนั้นเขาได้โอกาสลงสนามอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงเกม ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก กับ โรมา ก่อนจะแยกทางกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนเริ่มฤดูกาล 2008/09 หลังจากนั้นเขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งแบบที่ อันทเวิร์ป ได้อีกเลย

5. หลีเถี่ย

หลีเถี่ย เกิดในหมณฑลเหลียวหนิง เติบโตมากับทีมเยาวชน เหลียวหนิง และเริ่มเล่นกับสโมสร เหลียวหนิง เอฟซี ก่อนที่ เอฟเวอร์ตัน ตัดสินใจยืมตัวเขามาในฤดูกาล 2002/03 ซึ่งเป็น 1 ในดีลของสปอนเซอร์คาดหน้าอกอย่าง เคอเจี้ยน (Kejian) แม้จะโดนวิพากย์วิจารณ์เป็นอย่างมาก แต่ฝีมือของ หลีเถี่ย กับสร้างความประทับใจให้ เดวิด มอยส์ ได้ และได้โอกาสลงเล่นไปถึง 29 นัดในฤดูกาลนั้น และทำให้ เอฟเวอร์ตัน ต้องซื้อขาดในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม หลีเถี่ย ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้ทีมได้อย่างเคย เขาโดนไล่ออกตั้งแต่เกมแรกที่เจอกับ อาร์เซนอล ทั้ง ๆ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง หลังจากนั้นเขาได้รับบาดเจ็บอยู่เรื่อย ๆ จนแทบไม่มีโอกาสลงสนาม 

หลังหมดสัญญาในฤดูกาล 2005/06 เขาย้ายไป เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แบบฟรี ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาได้ลงเล่นแค่เกมเดียวเท่านั้นใน ลีกคัพ และต้องระเห็จกลับประเทศตัวเองไปในที่สุด

6. หลีเหว่ย์เฟิง

หลีเหว่ย์เฟิง เริ่มต้นอาชีพลูกหนังกับ เทียนจิน โลโคโมทีฟ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค ก่อนจะได้เซ็นสัญญาอาชีพกับ เสิ่นเจิ้น เอฟซี ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2002/03 เอฟเวอร์ตัน คว้าตัวเขาไปร่วมทัพด้วยสัญยายืมตัวร่วมกับ หลีเถี่ย จากการเป็นส่วนหนึ่งของดีลสปอนเซอร์ เคอเจี้ยน 

อย่างไรก็ตาม ชีวิตที่ เอฟเวอร์ตัน ของ หลีเหว่ย์เฟิง ไม่ได้สวยงามเหมือน หลีเถี่ย เมื่อเขาได้โอกาสลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก แค่เกมเดียวเท่านั้น ในนัดเจอกับ เซาแธมป์ตัน แลนอกจากนั้นก็ได้โอกาสเล่นใน ลีกคัพ อีก 1 เกมกับ เร็กซ์แฮม ก่อนที่เขาจะกลับบ้านเมื่อจบฤดูกาล และไม่ได้รับการติดต่อจาก เอฟเวอร์ตัน เหมือน หลีเถี่ย  

7. ซุนจีไห่

ตงฟางโจว ไม่ใช่นักเตะชาวจีนคนแรกของเมืองแมนเชสเตอร์ เพราะก่อนหน้านั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยไปไปคว้าตัว ซุนจีไห่ มาร่วมทัพก่อนแล้ว และแนวรับ มังกรแดง รายนี้นี่แหละที่สร้างชื่อและกรุยทางให้กับรุ่นน้องเชื้อสายจีนในเวลาต่อมา

ซุนจีไห่ เกิดที่มณฆลเหลียวหนิง ประเทศจีน เริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสร ต้าเหลียน ฉีเต๋อ ก่อนจะโดน คริสตัล พาเลซ ในสัมยที่ยังอยู่ ดิวิชั่น 1 (เดอะแชมเปี้ยนชิป ในปัจจุบัน) ดึงตัวมาด้วยสัญญายืมตัว ในฤดูกาล 1998/99 และได้ลงเล่นไป 23 นัด

หลังจากสร้างความคุ้นเคยในอังกฤษ ซุน รออีก 3 ปีจึงได้กลับมายังเกาะแห่งนี้อีกครั้ง คราวนี้เป็น แมนฯ ซิตี้ ในยุคของ เควิน คีแกน ที่ไปดึงตัวเขามาในฤดูกาล 2002/03 ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ และหลังจากนั้นเขาก็กลายเป็น 1 ในตำนานของทีม เมื่อสามารถสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลได้ แถมยังทำประตูได้ และกลายเป็นนักเตะจากเอเชียตะวันออกคนแรกที่ทำประตูได้ใน พรีเมียร์ลีก

หลังจาก 2 ฤดูกาลอันยอดเยี่ยม ซุน ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักและได้โอกาสลงเล่นน้อยกว่าที่เคยจากอาการบาดเจ็บออด ๆ แอด ๆ ในฤดูกาล 2008/09 เขาย้ายไปร่วมทีม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก่อนย้ายกลับประเทศจีนในฤดูกาลถัดมา และไม่ได้กลับมาอังกฤษอีกเลย

เรามีเว็บดูบอลสด ผลบอล ตารางบอลอัพเดทให้คุณได้ติดตาม พร้อมชมการแข่งขันทุกแมตช์ทุกลีก ไม่ว่าจะเป็นบอลไทย บอลอังกฤษ บอลอิตาลี บอลเยอรมัน บอลฝรั่งเศส และรายการอื่นๆ พร้อมชมการไฮไลท์การแข่งขันที่ผ่านมา แบบติดขอบจอกันเลยทีเดียว อีกหนึ่งช่องทาง สนใจสมัครเล่น 888BEEBET | UFA3388 | POK99 | GCLUB-KING | TDEDLNW |GCLUB95|UFA6 |

เว็บเรามีบริการมากมายให้ทุกท่านได้ร่วมสนุกกัน
GCLUB | HOLIDAY PALACE | GENTING CLUB | JOKER GAMING | UFABET | SBOBET | LEAGUE88
เราบริการมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี การเงินที่มั่นคง ฝาก-ถอน รวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ตลอด 24 ชั่วโมง